
ผู้จัดการทีมคนไหนได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก เรารวบรวบข้อมูลมาไว้ที่นี่
นักฟุตบอลระดับท็อปที่ค้าแข้งในลีกชั้นนำของยุโรป ล้วนได้รับค่าเหนื่อยตอบแทนอย่างงดงามตามฝีเท้า เช่นเดียวกับเหล่าผู้จัดการทีมดังซึ่งก็ได้รับค่าเหนื่อยเหมาะสมกับฝีมือไม่น้อยหน้ากัน
แน่นอนว่าค่าเหนื่อยของผู้จัดการทีมแต่ละคน ย่อมแตกต่างกันไปตามชื่อเสียงของตัวเอง รวมถึงขนาดของสโมสรต้นสังกัดว่าสามารถมีกำลังจ่ายให้มากน้อยแค่ไหน
มาดูกันว่าผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ได้เงินเท่าไหร่กันบ้าง?
ใครคือผู้จัดการทีมค่าเหนื่อยแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก?
แน่นอนว่าชื่อของสองสุดยอดผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ เยอร์เก้น คล็อปป์ ย่อมถูกคิดถึงมาเป็นลำดับต้น ๆ หากกล่าวถึงผู้จัดการที่ได้รับค่าเหนื่อยแพงที่สุด
เมื่อครั้งที่ กวาร์ดิโอลา เซ็นสัญญาฉบับแรกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อปี 2016 เขาได้รับค่าเหนื่อยต่อปีมูลค่าสูงถึง 15 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ต่อมาเขาตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่เมื่อปี 2020 ซึ่งทำให้ได้รับค่าเหนื่อยต่อปีเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านปอนด์ พร้อมทำให้เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในพรีเมียร์ลีก
ขณะที่ คล็อปป์ ได้รับค่าเหนื่อยต่อปีอยู่ที่ 15 ล้านปอนด์ เท่ากับที่ กวาร์ดิโอลา เคยได้ในสัญญาฉบับแรกกับซิตี้
5 อันดับผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกค่าเหนื่อยแพงที่สุด 2021-22
Managerผู้จัดการทีม | ค่าเหนื่อยต่อไป | สโมสร |
---|---|---|
เป๊ป กวาร์ดิโอลา | 20 ล้านปอนด์ | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
เยอร์เก้น คล็อปป์ | 15 ล้านปอนด์ | ลิเวอร์พูล |
อันโตนิโอ คอนเต้ | 12 ล้านปอนด์ | ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ |
ราล์ฟ รังนิค | 10 ล้านปอนด์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
โธมัส ทูเคิล | 10 ล้านปอนด์ | เชลซี |
อ้างอิงข้อมูลจาก totalsportal.com
ฐานค่าเหนื่อยที่ เป๊ป และ คล็อปป์ ได้รับนั้น ถือว่าอยู่ในเรตที่ใกล้เคียงเทียบเท่ากับที่นักเตะดังอย่าง ปอล ป็อกบา รวมถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับอยู่ในสัญญาฉบับปัจจุบันด้วย
ด้านค่าเหนื่อยของผู้จัดการทีมคนอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่สูงในระดับของ เป๊ป และ คล็อปป์ แต่ก็ถือว่าได้รับในเรตที่สมน้ำสมเนื้อ
อย่างทาง มิเกล อาร์เตต้า ที่แม้จะเป็นการรับงานผู้จัดการทีมแบบเต็มตัวครั้งแรก แต่เขาก็ได้รับค่าเหนื่อยต่อสูงถึง 8.7 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
ส่วนผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยน้อยสุดคือ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล จากเซาแธมป์ตัน และ ดีน สมิธ จากนอริช ซิตี้ ซึ่งได้ไปคนละ 1 ล้านปอนด์ต่อปีเท่ากัน